วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ประวัติตลาดโรงเกลือ

มารู้จักตลาดโรงเกลือกันครับ...

ตลาดโรงเกลือ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ตลาดคลองลึก ตั้งอยู่ที่บ้านโรงเกลือ ตำบลคลองลึก อำเภออรัญประเทศ ห่างจากตัวอำเภออรัญประเทศไปทางทิศตะวันออกด้วยทาง ลาดยางอย่างดีราว ๖ กิโลเมตร ลักษณะเป็นเรือนแถวไม้มุงสังกะสีแบ่งเป็นล๊อกๆ มีจำนวนร้าน ๑๓๘๐ แผง สินค้าส่วนใหญ่มาจากฝั่งเขมร มีทั้งสินค้าพื้นเมืองของเขมรเอง ของจีน รัสเซีย และสินค้าของไทยบ้างบางส่วน เช่นเครื่องทองเหลืองทั้งเก่าและใหม่ขัดเงา เครื่องกระเบื้อง ถ้วยชาม ผ้าราคาถูก เครื่องใช้ไฟฟ้า ปลากรอบ เครื่องจักสาน และเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย

ตลาดโรงเกลือ เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด มูลค่าการเก็บภาษีศุลกากรในยุคที่การค้าเฟื่องฟู เคยเก็บภาษีได้มากเป็นลำดับที่ ๒ รองจากท่าเรือคลองเตยเท่านั้นเอง

ในอดีตตรงบริเวณนั้นเป็นสถานที่ใช้เก็บเกลือ เพื่อนำไปขาย ให้กับชาวกัมพูชานำไปใช้ทำปลาเค็ม ต่อมา ความจำเป็นต้องใช้เกลือลดน้อยลง ประกอบกับเกิดภัยการสู้รบภายในประเทศกัมพูชา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 - 2536 ทำให้ชาวกัมพูชาประสบกับทุพภิกขภัย ประเทศไทย จึงได้เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ตลาดโรงเกลือจัดเป็นตลาดที่ขายเครื่องอุปโภค บริโภค เครื่องมือ เครื่องใช้ ที่จำเป็นแก่การดำรงชีพ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 และได้ใช้คำว่า " ตลาดโรงเกลือ " แต่ในปัจจุบันตลาดโรงเกลือ ได้พัฒนาขึ้นมาเป็นตลาดชายแดนที่มีขนาดใหญ่โตมาก มีสินค้าราคาถูกนานาชนิดทั้งของไทย เขมร เวียดนาม จีน มาวางขายให้กับประชาชนทั่วๆไปและนักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อกัน ในแต่ละวันจะมีประชาชนเข้ามาจับจ่าย ซื้อของในตลาดโรงเกลือ เฉลี่ยวันละ 10,000 คนเป็นอย่างน้อยซึ่งถือได้ว่าเป็นตลาดการค้าชายแดน ที่ทำเงินรายได้เข้าประเทศที่ใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้

ที่ตั้งของตลาดโรงเกลือ
บ้านดงสูง หมู่ 7 ต. ป่าไร่ อ. อรัญประเทศ จ. สระแก้ว

ประวัติของตลาดโรงเกลือ
ในอดีตตลาดการค้าชายแดนฝั่งเขมร(กัมพูชา) หรือตลาดปอยเปต ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ อ. อรัญประเทศของไทย นับเป็นตลาดการค้าชายแดนสำคัญของชาวเขมร และเป็นแหล่งท่องเที่ยว

แนวชายแดนที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี นิยมข้ามแดนไปเที่ยวกันอย่างคึกคัก ตลาดปอยเปตต้องซบเซาลงเพราะเหตุการณ์สงครามของเขมรในอดีต เมื่อเหตุการณ์สงบลงปอยเปตกลับพลิกฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่เป็นแหล่งบ่อนกาสิโนอย่างถูกต้องตามกฎหมายของเขมร ในขณะเดียวกันตลาดการค้าขายชายแดนขยับย้ายข้ามมายังฝั่งไทย บริเวณที่เป็นโกดังเก็บเกลือเพื่อส่งไปขายในเขมร ชาวบ้านร้านถิ่นทั่วไปจึงเรียกตลาดโรงเกลือ มีการสร้างอาคารปรับปรุงเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2534 บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว

เวลาเปิดทำการของตลาดโรงเกลือ
- เปิดทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น.
- มีจักรยานให้เช่าวันละ 20 บาท ร้านเช่าจักรยานมีตั้งอยู่หลายจุดของลานจอดรถ

สิ่งที่น่าสนใจ

ตลาดโรงเกลือ
มีพื้นที่กว้างขวางราว 66 ไร่ ปลูกโรงเรือนเรียงรายอย่างเป็นระเบียบกว่า 40 หลัง แต่ละหลังแบ่งเป็นแผงร้านค้านับหลายสิบร้าน หากรวมร้านค้าทั้งหมดทั่วตลาดจึงมีนับร้อยร้านทีเดียว บรรยากาศในตลาดโรงเกลือคล้ายตลาดนัดขนาดใหญ่ทั่วๆไป ผู้คนพลุกพล่านทั้งแม่ค้าลูกค้าและนักท่องเที่ยวเดินกันขวักไขว่

สินค้าที่น่าสนใจในตลาดโรงเกลือมีมากมายหลากหลายอย่างด้วยกัน ที่มีชื่อเป็นที่รู้จักกันดีคือ เป็นแหล่งเสื้อผ้ากระสอบ หรือเสื้อผ้ามือสองคุณภาพดีที่มีผู้ศรัทธาจากประเทศต่าง ๆ ทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกา บริจาคให้แก่ผู้ยากไร้ในเขมร มีทั้งกางเกงยีน เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต เสื้อกันหนาว รองเท้าหนัง เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันสินค้าประเภทของเก่ามีขายน้อยลง และมีสินค้าประเภทเดียวกัน แต่เป็นของใหม่เลียนแบบยี่ห้อดังซึ่งผลิตในเขมรและเวียดนามเริ่มวางขายมาก ขึ้น

ที่น่าสนใจซื้อหาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสินค้าชนิดอื่นคือ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ อย่างเครื่องจักสาน ทั้งที่ทำจากไผ่และหวายจากเขมร มีทั้งกระบุง ตะกร้า กระจาด ผลิตภัณฑ์ปลาน้ำจืดจากทะเลสาบเขมรอย่างปลาเนื้ออ่อน ปลาแดง ซึ่งมีทั้งแบบที่ย่างรมควันจนเป็นปลาแห้งและแบบขายเป็นปลาสด ปลาย่าง นอกจากนี้ยังมีของเล่นเด็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องกระเบื้อง ทั้งถ้วยชาม ชุดน้ำชาจากจีนและเวียดนาม ให้เลือกซื้อเลือกหากันเป็นจำนวนมากอีกด้วย

อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอรัญประเทศ
ชาวบ้านเรียกสั้น ๆ ว่าประตูชัย ตั้งอยู่บริเวณตลาดโรงเกลือตรงแนวชายแดนระหว่างด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งสอง ฝั่งไทย-เขมร สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2482 เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ในสงครามอินโดจีน-การรบระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากวิกฤตการณ์สยาม ร.ศ. 112 หรือ พ.ศ. 2436 ที่ไทยต้องเสียดินแดนบางส่วนให้แก่ฝรั่งเศสไป ได้แก่ ดินแดนสิบสองจุไทยในภาคเหนือ อาณาเขตประเทศลาวปัจจุบัน และดินแดนมณฑลบูรพา คือบริเวณที่เชื่อมต่อชายแดนส่วนนี้ซึ่งอยู่ในภาคเหนือของประเทศกัมพูชา ปัจจุบัน ที่มีสถานที่สำคัญระดับโลกตั้งอยู่ คือ นครวัด นครธม และปราสาทเขาพระวิหาร

อนุสาวรีย์แห่งนี้มีลักษณะคล้ายเสาหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ สูงจากฐานถึงยอด 15 ม. แบ่งเป็นสามส่วน โดยชั้นล่างหรือฐานเป็นห้องรักษาการณ์ ส่วนชั้นที่ 2 ประดับประติมากรรมนูนสูงโดยรอบ เป็นเรื่องราวการสู้รบในสงครามไทยฝรั่งเศส ส่วนที่ 3 เป็นเสาหกเหลี่ยมสูง ประดับธงชาติไทย

หลังจากก่อสร้างอนุสาวรีย์เสร็จฝ่ายไทยก็ไม่ได้ใช้ป้อมประตูชัยนี้เป็นแนว เขตแดนเป็นเวลาหลายปี ด้วยชัยชนะที่มีต่อฝรั่งเศสคราวนั้นเป็นผลให้ไทยได้ดินแดนมณฑลบูรพาคืนรวม ทั้งเมืองจำปาศักดิ์ในลาวด้วย กระทั่งในปี พ.ศ. 2489 ผลจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ไทยต้องเสียดินแดนมณฑลบูรพากลับไปให้ฝรั่งเศส ป้อมประตูชัยจึงกลับมาทำหน้าที่เป็นแนวเขตประเทศอีกครั้งหนึ่ง

ข้อปฏิบัติสำหรับผู้ที่จะข้ามไปประเทศกัมพูชา

1. คนไทยที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภอคลองลึก อำเภออรัญประเทศ อำเภอคลองหาดและอำเภอตาพระยา สามารถขอบัตรชายแดนไปเช้าเย็นกลับได้ ้ และผู้ถือบัตรผ่านแดนชั่วคราวชาวไทยสามารถเดินทางเข้าออกราชอาณาจักรกัมพูชา ได้ในจังหวัดบันเตียนเมียนเจย และจังหวัดเสียมราฐ แต่ไม่สามารค้างคืนได้

2. ผู้ถือบัตรผ่านแดนชั่วคราวชาวกัมพูชา สามารถเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทยได้ในจังหวัดสระแก้วและจังหวัดปราจีนบุรี แต่ไม่สามารถค้างคืนได้ สำหรับชาวกัมพูชาที่ถือหนังสือผ่านแดน ( Border Pass) สามารถพักค้างคืนที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

3. สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้าไปยังราชอาณาจักร กัมพูชา จะต้องแสดงบัตรประชาชนและพาสปอร์ตโดยขอวีซ่าจากสถานทูตราชอาณาจักรกัมพูชา ประเทศไทย เพื่อที่จะเข้าไปท่องเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ

4. นักท่องเที่ยวชาวไทยที่จะเดินทางเข้าไปในราชอาณาจักรกัมพูชา แบบไปเช้า-เย็นกลับ ในระยะทางไม่เกินป้อมยาม ต้องแสดงบัตรประชาชนและพาสปอร์ตควรติดต่อสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม ก่อนที่จะเดินทางจากสถานทูตราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย สำนักงานจังหวัดสระแก้ว โทร. 0 3742 5066-7 ด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภออรัญประเทศ โทร. 0 3723 1131 ศุลกากรอำเภออรัญประเทศ โทร. 0 3723 1214 และสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคกลาง เขต 8 ทั้งนี้ ราชอาณาจักรกัมพูชาไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำกล้องถ่ายรูป หรือกล้องถ่ายภาพยนตร์เข้าไป รวมทั้งยังห้ามนำเข้าสินค้าบางประเภท เช่น ตาชั่ง สัตว์ป่า ผลิตผลจากสัตว์ป่า หอม และกระเทียม ทั้งจากประเทศไทยเข้าไปยังราชอาณาจักรกัมพูชา และจากราชอาณาจักรกัมพูชาเข้ามายังประเทศไทยด้วยเช่นกัน

การเดินทาง มีรถสองแถวจากอำเภออรัญประเทศ ถึงตลาดโรงเกลือ ค่าโดยสาร 7 บาท หรือโดยสารรถจักยานยนต์ ค่าโดยสาร 50 บาท โดยประมาณ